28 ธันวาคม 2019
ขอบคุณที่ได้มีโอกาสที่จะกล่าวถึงแม่ในวันนี้
แม่เป็นแม่
เป็น single mom มาก่อนที่จะมีวลีนี้ใช้กันอย่างแพร่หลาย
แม่เป็นครู
ตลอดชีวิตการทำงาน มีได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พยายามไปหาข้อมูลจากกรมสามัญศึกษาที่โรงเรียนของแม่สังกัดอยู่
เขาบอกว่าไม่ได้มีการบันทึกไว้
แต่สิ่งเหล่านี้พระคัมภีร์เรียกว่าเป็น “หยากเหยื่อ”
ไม่ได้มีความสำคัญอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับการที่แม่ได้รู้จักพระเจ้า
แม่เป็นผู้เชื่อ
ที่มั่นใจในการทรงสถิตของพระเจ้า
แม้อาจจะไม่ได้อ่านพระคัมภีร์มากเท่าใครหลายคน
แต่ตอนที่แม่ป่วยและต้องอยู่ที่บ้านคนเดียวตอนกลางวัน
แม่จะบอกว่า ไม่ต้องห่วงนะ พระเจ้าอยู่ด้วย แม่อธิษฐานตลอด
แม่เป็นยาย
คิดว่านี่เป็นบทบาทที่แม่อาจจะชอบที่สุด จนเรียกตัวเองว่ายายกับทุกคน
บางคนในที่นี้เคยได้ยินเรื่องนี้มาแล้วและรู้ว่ามดไม่ชอบ
ก็แค่เรียกตัวเองว่า “แม่” กับลูก มันยากตรงไหน
และจริง ๆ ก็มีอีกหลายอย่างที่แม่ทำและมดไม่ชอบ เช่น
ไม่รับโทรศัพท์และไม่เคยโทรหา
Missed call เป็น 10 ครั้ง ก็ไม่โทรกลับ
ไม่ขอความช่วยเหลือจากลูก บอกว่าเกรงใจ
แต่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เพื่อนบ้าน พี่น้องที่โบสถ์
สิ่งเหล่านี้เข้าใจยาก มดไม่เข้าใจ
แต่วันหนึ่ง ก็มาถึงจุดที่ตระหนักว่า ไม่ต้องเข้าใจ แต่ยอมรับ
คือยอมที่พระเจ้าให้มีแม่อย่างนี้
ซึ่งไม่ใช่ไม่ดี แต่เป็นพระพร
ขอแบ่งปัน 2 สิ่งที่แม่สอนมด
สิ่งแรกคือการเสียสละ
หลาย ๆ คนจะรู้ว่ามดชอบแมว มีแมว 6 ตัวที่บ้าน
จริง ๆ ตั้งแต่เด็ก ๆ บ้านเราจะมีแมวมาตลอด
แต่เพิ่งจะมารู้ภายใน 10 ปีมานี้เองว่า
แม่ไม่ชอบความรู้สึกเวลาที่แมวมาคลอเคลีย
เคล้าแข้งเคล้าขา มันไม่ได้น่าเอ็นดูสำหรับแม่
แต่แม่ก็เสียสละ เพราะลูกชอบ
สิ่งที่สองคือ
แม่สอนว่า อย่าอยากได้อะไรจากคนอื่น แล้วจะสบายใจ
อะไรที่ว่านี้ไม่ใช่แค่สิ่งของหรือเงินทอง
อาจเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม ข้อมูล ข่าวสาร ความรัก
ถ้าใครรู้อะไร แล้วเขาไม่บอกเรา
ก็แปลว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้
ถ้าใครไม่รักเรา ก็ไม่เป็นไร
พระเจ้ายังไม่บังคับให้ใครรักพระองค์เลย
อาจจะฟังดูเหมือนอกหัก
แต่จริง ๆ ประยุกต์ได้กับความรักทุกรูปแบบ
แล้วการที่แม่ไม่โทรศัพท์มาหา
ไม่ขอความช่วยเหลือจากมด
ก็ไม่เป็นไร
เพราะพระเจ้าจัดเตรียมคุณย่าของหลานให้โทรมาบอกมดว่า
แม่ผอมมาก
เมื่อพาแม่ไปหาหมอไม่กี่ครั้ง
ก็ได้รู้ว่า มีน้ำในปอดข้างซ้าย
เป็นของเหลวซึ่งเนื้อร้ายที่เยื่อหุ้มปอดผลิตออกมา
มดได้คุยกับแม่ก่อนจะรู้สิ่งนี้ว่า
ไม่ว่าจะเป็นอะไร พระเจ้าก็รักษานะ
วันแรกที่หมอบอกว่าพบเนื้อร้าย หมอพูดว่าไม่หายนะคะ
มดกับแม่คุยกันใหม่ว่า
ไม่ว่าจะอย่างไร พระเจ้าก็ดูแลนะ
จริง ๆ พูดได้เต็มปากว่า
การที่แม่ป่วยเป็นพระพรหรือพระพรที่ซ่อนอยู่
พระเจ้าให้โอกาสได้ใช้เวลากับแม่ ได้ทำสิ่งที่ลูกควรทำ
แม่ไม่ต้องโทรมา แต่ได้คุยกัน เพราะแม่มาอยู่ที่บ้าน
แม่ไม่ต้องขอความช่วยเหลือ แต่ลูกได้พาไปหาหมอ
แม่ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าแม่ แต่มดก็เป็นลูกแม่
สิ่งหนึ่งที่แม่ชอบทำคือการประกาศ
การบอกเรื่องราวของพระเจ้ากับผู้ที่ยังไม่รู้จักพระองค์
ขอบคุณพระเจ้าที่ในวาระสุดท้าย
ก่อนที่ร่างของแม่จะกลับไปเป็นผงคลีดิน
แม่ก็ยังได้ประกาศบอกบางคนในที่นี้ที่อาจจะยังไม่รู้จักพระเจ้า
ให้ได้ยินเรื่องราวของพระองค์
สำหรับใครที่อยากจะพบแม่อีก จะเรียกว่าชาติหน้าหรืออะไรก็ตาม
ทางเดียวคือจะต้องติดตามพระเยซู
ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่ม มั่นใจว่าผู้เชื่อทุกคนในที่นี้ยินดีจะแบ่งปันเรื่องนี้
ถามใครก็ได้
สำหรับผู้ที่อาจจะไม่ได้รู้จักแม่เป็นการส่วนตัว
และยังไม่รู้จักพระเจ้า
และโดยเฉพาะ ถ้ายังมีแม่อยู่
ก็อยากจะแนะนำให้ท่านและแม่ของท่านรู้จักพระเจ้าเช่นกัน
คือเมื่อแม่จากไป
ก็มั่นใจมากว่าไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว หายใจสะดวกแล้ว
แต่มันก็ยังรู้สึกแปลก ๆ
จะบอกความลับให้ว่า
เวลาอยู่บ้าน ถ้าไม่ได้ทำอะไร
ก็จะร้องเพลงนมัสการ
ไม่ใช่แค่ในใจ แต่ออกเสียงดัง ๆ ด้วย
ย้ำอีกครั้ง
ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่ม ถามใครก็ได้
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณพระเจ้าอีกครั้งสำหรับแม่
และขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านค่ะ
No comments:
Post a Comment