Friday, June 12, 2009

ความบาป VS บาปกรรม

เมื่อผู้ใดจะอธิษฐานต้อนรับพระเยซูเข้ามาเป็นพระเจ้าในชีวิต หรืออย่างที่เรียกกันว่ารับเชื่อนั้น สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องแน่ใจนอกจากความจริงที่ว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าองค์เดียวซึ่งตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่เราจากบาปก็คือการที่เราเป็นคนบาป ซึ่งโดยสาระสำคัญไม่ได้หมายความเพียงแค่ว่าเราทำผิดพระบัญญัติของพระเจ้าในข้อต่างๆ แต่รวมถึงการที่เรามีสถานะเป็นคนบาป ทั้งยังมีแนวโน้มตามธรรมชาติที่จะทำบาปอีกด้วย เนื่องจากแนวคิดในเชิงศาสนาของคนไทยมักมีที่มาจากศาสนาพุทธซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ ความคิดเรื่องบาปสำหรับคนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าจึงมักเป็นไปตามแนวศาสนาพุทธซึ่งเรียก “บาป” โดยใช้คำว่า “บาปกรรม” และกรรมหมายถึงการกระทำ บาปกรรมจึงหมายถึงการกระทำที่เป็นบาปเท่านั้น
นอกเหนือจากความคิดพื้นฐานในเรื่องของบาปที่แตกต่างกันดังกล่าวข้างต้นแล้ว บาปกรรมในศาสนาพุทธและความบาปในคริสตศาสนายังมีความแตกต่างหลักอื่นๆ ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึง 3 ประการคือนิยามของบาป นิยามของคนบาป และระดับของบาป บาปในศาสนาพุทธคือสิ่งที่ทำให้จิตใจมีคุณภาพต่ำลง สิ่งที่ทำแล้วเป็นบาปเรียกว่าอกุศลกรรมบถ 10 ได้แก่ 1. ฆ่าสัตว์ 2. ลักทรัพย์ 3. ประพฤติผิดในกาม 4. พูดเท็จ 5. พูดส่อเสียด 6. พูดคำหยาบ 7. พูดเพ้อเจ้อ 8. คิดโลภมาก 9. คิดพยาบาท และ 10. มีความเห็นผิด คนบาปคือผู้ที่กระทำสิ่งเหล่านี้ ผู้ที่ไม่กระทำสิ่งเหล่านี้ถือว่าไม่บาป ดังที่มีคำกล่าวภาษาบาลีว่า “นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต” บาปย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้ไม่ทำบาป (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) และศาสนาพุทธยังจัดบาปกรรมซึ่งมีโทษหนักที่สุด เรียกว่า “อนันตริยกรรม” ไว้ 5 ประการ คือ ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำให้สงฆ์แตกแยก ทำร้ายพระวรกายพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด แสดงให้เห็นว่าบาปกรรมมีระดับหนักเบาต่างๆ กันไป สำหรับความบาปในคริสตศาสนาคือการไม่เชื่อฟังพระเจ้า สภาพซึ่งเป็นผลจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้า และการกระทำซึ่งเป็นผลจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้า มนุษย์ทุกคนเป็นคนบาปเพราะเป็นลูกหลานของอาดัมซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกและไม่เชื่อฟังพระเจ้า แม้ตามคำสอนของคาทอลิกจะมีบาปที่จัดว่าร้ายแรง 7 ประการ (seven deadly sins) คือ 1. ราคะ 2. ตะกละ 3. โลภะ 4. เกียจคร้าน 5. โทสะ 6. อิจฉา และ 7. โอหัง ในคริสตศาสนา บาปไม่มีระดับมากน้อยต่างกัน ทุกบาปเป็นการทำผิดต่อพระเจ้าทั้งสิ้น แต่ก็มีการแบ่งบาปเป็น 2 ประเภทคือ บาปที่นำไปสู่ความตายและบาปที่ไม่ได้นำไปสู่ความตาย ดังที่ปรากฎใน 1 ยอห์น 5: 17 ว่า “การอธรรมทุกอย่างเป็นบาป แต่บาปที่ไม่ได้นำไปสู่ความตายก็มี” และบาปที่นำไปสู่ความตายนั้นมีอยู่เพียงอย่างเดียวคือการปฏิเสธพระเจ้าตลอดไป
ในการประกาศข่าวประเสริฐ เราควรตระหนักถึงความแตกต่างเหล่านี้ระหว่างความบาปในคริสตศาสนาและบาปกรรมในศาสนาพุทธและถ่ายทอดให้ผู้ที่จะรับเชื่อได้ทราบ เพื่อให้แน่ใจว่าเขามีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะสิ่งนี้จะนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องของความรอดต่อไป

No comments: